WWW.TRAVEL2GUIDE.COM

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง วัดพระมหาธาตุเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก
ชั้นวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัดพระบรมธาตุ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้และประเทศไทย ตามตำนานพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เจ้าชายธนกุมารและพระนางเหมชาลา เป็นผู้นำเสด็จพระบรมธาตุมาประดิษฐาน ณ หาดทรายแก้วและสร้างเจดีย์องค์เล็ก ๆ
เป็นที่หมายไว้ ต่อมาในปีมหาศักราช 1098 (พ.ศ.1719) พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ทรงสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นพร้อมการก่อสร้างเจดีย์ขึ้นใหม่ พระบรมธาตุเจดีย์มีลักษณะรูปแบบศิลปกรรมเป็นเจดีย์ทรงลังกาสูง 55.78 เมตร (กรมศิลปากรวัดเมื่อการบูรณะปลียอดทองคำเมื่อ พ.ศ. 2538) จากฐานบัวคว่ำบัวหงายถึง
ปลียอด 6.80 เมตร ใช้ทองคำเนื้อสิบหุ้มโดยรอบ ภายในวัดพระมหาธาตุฯ มีวิหารที่มีความสำคัญหลายหลังประดิษฐานอยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระวิหารหลวง มีความงามตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา นอกจากนั้นยังมี วิหารสามจอม วิหารที่มีพระพุทธรูปทรงเครื่องอย่างกษัตริย์ชื่อว่า “พระศรีธรรมาโศกราช” ประดิษฐานอยู่ วิหารพระมหาภิเนษกรมน์ (วิหารพระทรงม้า) วิหารทับเกษตร ส่วน วิหารเขียน และวิหารโพธิ์ลังกานั้นเป็นสถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่พุทธศาสนิกชนถวาย เป็นพุทธบูชา


อุทยานแห่งชาติเขาหลวง
อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ครอบคลุมพื้นที่ของอำเภอเมือง อำเภอพิปูน อำเภอพรหมคีรี อำเภอลานสกา อำเภอฉวาง กิ่งอำเภอช้างกลาง และกิ่งอำเภอนบพิตำ มีเนื้อที่ประมาณ 570 ตารางกิโลเมตร ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2517 ประกอบด้วยเทือกเขาที่สลับซับซ้อน มียอดเขาหลวงเป็นยอดเขาสูงสุดประมาณ 1,835 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งสูงที่สุดในภาคใต้เป็นแหล่งของต้นน้ำลำธารและคลองต่าง ๆ กว่า 15 สาย มีสภาพเป็นป่าดงดิบชื้นและป่าดิบเขา เส้นทางการเดินในอุทยานเป็นวงรอบ มีธรรมชาติที่สวยงามและมีความหลากหลายทางชีวภาพ มีพืชและสัตว์ที่หายากอยู่มากมาย อุทยานแห่งนี้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ( Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2541 รางวัลยอดเยี่ยมประเภท แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ   ช่วงเวลาที่เหมาะในการเดินทาง
มาท่องเที่ยว คือเดือนมกราคม-เดือนกรกฎาคม

อุทยานแห่งชาติเขานัน

ห่างจากอำเภอท่าศาลา 30 กิโลเมตร อุทยานมีเนื้อที่ประมาณ 436 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ของอำเภอท่าศาลา อำเภอสิชล และกิ่งอำเภอนบพิตำ นอกจากนี้ ยังมีอาณาเขตที่ครอบคลุมเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขานัน และเขตป่าสงวนแห่งชาติป่า
กรุงชิงบางส่วน ลักษณะเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นแนวติดต่อมาจากอุทยานแห่ง
ชาติเขาหลวง เป็นป่าต้นน้ำของคลองหลายสาย อุทยานมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่
•น้ำตกสุนันทาเป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความงดงามตามธรรมชาติ สายน้ำไหลจากหน้าผาชันลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง และไหลลงสู่ลำคลองกลาย ซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญในเขตอำเภอท่าศาลา สามารถจัดกิจกรรมล่องแพตามลำน้ำได้ในช่วงฤดูน้ำหลาก
•น้ำตกกรุงนาง เป็นน้ำตก 3 ชั้น ขนาดกลาง แต่ละชั้นสูงประมาณ 30 เมตร ตั้งอยู่ที่บ้านสวนปราง แยกจากเส้นทางไปบ้านปากลง เป็นทางลูกรังใช้ได้ตลอดปี
•น้ำตกคลองปาว เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง มีลักษณะไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ เป็นต้นกำเนิดของคลองกลาย ตลอดลำคลองกลายมีโขดหินสวยงาม การเดินทางใช้เส้นทางไปบ้านปากลงเข้าสู่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขานัน ที่ ขน. 1
(คลองกลาย) ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร แล้วเดินเท้าต่อประมาณ 1 กิโลเมตรถึงน้ำตก
อุทยานมีสถานที่กางเต็นท์บริการนักท่องเที่ยว โดยทำหนังสือแจ้งล่วงหน้าที่อุทยานแห่ง
ชาติเขานัน ตู้ ป.ณ. 51 อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช 80160


การเดินทาง จากตัวเมืองใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 401 จนข้ามคลองกลายผ่านบ้าน สระแก้วอำเภอท่าศาลา หลักกิโลเมตรที่ 110 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าบ้านปากเจา เข้าสู่ที่ทำการอุทยานประมาณ 15 กิโลเมตร


อุทยานแห่งชาติหาดขนอมหมู่เกาะทะเลใต้

เนื้อที่ ของอุทยานฯ ครอบคลุมพื้นที่ทางทะเล เกาะแก่ง ภูเขา และพื้นที่ชายฝั่งทะเลของอำเภอขนอมทั้งหมด รวมทั้งพื้นที่ทางทะเลสาบบางส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี อุทยานแห่งชาติหาดขนอมหมู่เกาะทะเลใต้ประกอบไปด้วยเกาะน้อย เกาะวังใน เกาะวังนอก เกาะแตน เกาะราบ เกาะท่าไร่ เกาะผี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอ่าวขนอม อ่าวท้องท่าค่ำ
อ่าวท้องหลาง อ่าวท้องหยี อ่าวท้องยาง และภูเขาต่างๆ เช่น เขาพลายดำ เขาผีหงาย
เขาคอ เขาเพลา เขาดาดฟ้า เป็นต้น


อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง

หรือเรียกกันทั่วไปว่า “น้ำตกโยงใสใหญ่” มีพื้นที่ประมาณ 126,675 ไร่ ครอบคลุมพื้นท
อำเภอทุ่งสง อำเภอฉวาง อำเภอนาบอน ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อปี 2534 มีสภาพป่าและทิวทัศน์ที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามอีกแห่งหนึ่ง พื้นที่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนทอดยาวตามแนวเหนือมาใต้ ได้แก่ เขาเหมน เขาทง เขาวังหีบ เขาพระ เขาหลวง เขาโยง เขาลำโรม เขาปากแพรก เขาปลายเปิด เป็นต้น เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของลุ่มน้ำตาปี ลุ่มน้ำปากพนัง และลุ่มน้ำกันตัง และมียอดเขาเหมน เป็นยอดเขาสูงสุด มีความสูง 1,235 เมตรจากระดับน้ำทะเล นอกจากนั้นยังพบสัตว์ป่าและ
พืชต่างๆ ที่น่าสนใจและหายากหลายชนิด อุทยานฯ มีฝนตกชุกเกือบทั้งปี แต่ก็สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคม


แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรในอำเภอช้างกลาง

อำเภอที่มีกิจกรรมทางการท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่กำลังได้รับความสนใจและเป็น ที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวที่นิยมท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยมีรางวัลดีเด่นอุตสาหกรรม
ท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards 2002) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นสิ่งยืนยันคุณภาพของแหล่งท่องเที่ยว การดำเนินการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของกิ่งอำเภอช้างกลางเป็นความร่วมมือของ ชุมชน โดยรวมตัวเป็นกลุ่มและจัดตั้งชมรมท่องเที่ยวเกษตรช้างกลางเป็นหน่วยกลาง ในการประสานการนำเที่ยวและการเข้าชมแหล่งต่าง ๆ ดังนี้


น้ำตกกรุงชิง

เป็นน้ำตกที่สวยงามและสำคัญของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ตั้งอยู่ในตำบลกรุงชิง
ชื่อ “กรุงชิง” มาจากคำว่า “ต้นชิง” ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ตระกูลปาล์มชนิดหนึ่งที่มีอยู่มากในเขตนี้ น้ำตกกรุงชิงมีอยู่หลายชั้น เช่น หนานมัดแพ หนานฝนแสนห่า หนานปลิว หนานจน หนานโจร หนานต้นตอ หนานวังเรือบิน ชั้นที่สวยที่สุด ได้แก่ “หนานฝนแสนห่า” อยู่ที่ชั้น 2 เพราะน้ำตกจากหน้าผาสูงชันประมาณ 100 เมตร กระแสน้ำแผ่เป็นผืนกว้างกระจายออกเป็นละอองเหมือนม่านฝน ไม่จับกันเป็นเกลียวน้ำดังน้ำตกทั่วไป จีงเรียกว่า “ฝนแสนห่า”จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ที่ ขล. 4 ถึงหนานฝนแสนห่า
ระยะทาง 3.8 กิโลเมตร บริเวณน้ำตกกรุงชิงมีที่พักและสถานที่สำหรับเล่นแคมป์ไฟ มีร้านค้าและร้านอาหารตั้งอยู่เชิงเขา

การเดินทาง จากตัวเมืองใช้เส้นทางหลวงสายนครศรีธรรมราช-พรหมคีรี
(ทางหลวงหมายเลข 4016) ถึงสามแยกนาเหรงเลี้ยวซ้ายไปถึงกิ่งอำเภอนบพิตำ
แล้วเลี้ยวขวา (ทางหลวงหมายเลข 4186) ระยะทาง 70 กิโลเมตร


อ่างเก็บน้ำกะทูน

เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริของของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่ที่ตำบลกะทูน อำเภอพิปูน พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงความทุกข์ยากของชาวบ้านที่ต้องประสบเหตุการณ์สูญเสีย ครั้งยิ่งใหญ่ไปกับอุทกภัยเมื่อปี 2531 จึงทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานสร้างอ่างเก็บน้ำขึ้น แล้วเสร็จในปี 2540  ครอบคลุมพื้นที่ 12,500 ไร่ นับว่าเป็นอ่างเก็บน้ำที่ใหญ่มากและใต้อ่างเก็บน้ำในอดีตก็คือหมู่บ้านกะทูน ในอดีตนั่นเอง   อ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีทิวทัศน์ของทะเลสาบและขุนเขาที่สวยงาม ได้รับการขนานนามว่าเป็น สวิตเซอร์แลนด์แดนใต้  ใครที่ได้มานอนค้างและฟังประวัติชุมชนที่นี้จะรู้สึกว่าที่นี้มีหลายสิ่ง ที่น่าประทับใจ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่จะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชุมชน ภูมิปัญญาชาวบ้านควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

บริเวณริมอ่างเก็บน้ำ มีร้านอาหารเรียงรายตามถนนเส้นคลองกะทูนใต้  รวมถึงรีสอร์ทน่าพักหลายแห่ง มีกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ อาทิ
1.กิจกรรมเข้าค่ายพักแรม  ชุมชนมีการจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับจัดแคมป์ไฟเดินป่า  พร้อมกับมีวิทยากรนำชมพื้นที่ประวัติศาสตร์ชุมชนที่เคยเป็นค่ายคอมมิวนิสต์ และพื้นที่เคยโดยน้ำท่วมในอดีต
2.  กิจกรรมล่องเรือชมภูมิทัศน์และฟังประวัติชุมชน
3. กิจกรรมตกปลารวมถึงฝึกให้อาหารปลาด้วย
นอกจากนี้ยังได้แวะชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เซรามิตจากโครงการเซรามิค สถาบันวิจัย
จุฬาภรณ์ มี จาน ชาม ถาด แจกันสวยงามที่มีลายหายาก  
สอบถามรายละเอียด ได้ที่ ศูนย์ประสานงานการจัดการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อมบ้านกะทูนใต
้ โทร 08 6050 9784 หรือสถานที่พักบริเวณอ่างเก็บน้ำกะทูน


พระพุทธสิหิงค์

ประดิษฐานภายในหอพระพุทธสิหิงค์บริเวณศาลากลางจังหวัด เป็นพระพุทธรูปสำคัญที่ตามตำนานกล่าวว่า พระมหากษัตริย์ลังกาโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 700 และมาอยู่ประเทศไทยในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ปัจจุบันพระพุทธสิหิงค์ในประเทศไทย
มีอยู่ 3 องค์ คือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ และหอพระพุทธสิหิงค์ จังหวัดนครศรีธรรมราช หอพระพุทธสิหิงค์นี้เดิมเป็นหอพระประจำวังของเจ้าพระยานคร (น้อย) ภายในหอแบ่งเป็นสองตอน ตอนหน้าเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพุทธสิหิงค์และพระลากเงิน พระลากทอง ส่วนหอตอนหลังเป็นที่บรรจุอัฐิของสกุล ณ นคร


ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช

ที่ตั้งบริเวณทิศเหนือของสนามหน้าเมืองเนื้อที่ 2 ไร่ ประกอบด้วยอาคาร 5 หลัง หลังกลางเป็นที่ประดิษฐานหลักเมืองออกแบบให้มีลักษณะคล้ายศิลปะศรีวิชัย เรียกว่าทรง เหมราชลีลา วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2532 ส่วนอาคาร เล็กทั้งสี่หลังถือเป็น
ศาลบริวารสี่ทิศ เรียกว่าศาลจตุโลกเทพ ประกอบด้วยพระเสื้อเมืองศาลพระทรงเมืองศาลพระพรหมเมือง และศาลพระบันดาลเมือง วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2535 ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ใน
พ.ศ. 2542องค์เสาหลักเมืองทำด้วยไม้ตะเคียนทองที่ได้มาจาก
ภูเขายอดเหลือง อันเป็นภูเขาลูกหนึ่งในทิวเขานครศรีธรรมราชในท้องที่ตำบลกระหรอ กิ่งอำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ขนาดความสูง 2.94 เมตร เส้นรอบวง 0.95 เมตร
ลวดลายที่แกะสลัก ตั้งแต่ฐาน ซึ่งเป็นวงรอบเก้าชั้นมี 9 ลายส่วนบนของเสาเป็นรูปจุตคามรามเทพ(สี่พักตร์) หรือเทวดารักษามืองเหนือสุดเป็นเปลวเพลิงอยู่บนยอดพระเกตุคือยอดชัยหลักเมือง รูปแบบการแกะสลักจินตนาการจากความเชื่อในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ซึ่งเคยมีอิทธิพลทางศิลปกรรมในภาคใต้และนครศรีธรรมราชแต่ครั้งโบราณ


กุฏิทรงไทย
กุฏิ ทรงไทย หรือ กุฎิร้อยปี ตั้งอยู่ในวัดวังตะวันตก ริมถนนราชดำเนิน ตามประวัติกล่าวว่า เมื่อครั้งเจ้าจอมมารดาปรางประทับอยู่ที่วังตะวันออก โปรดให้ปรับปรุงป่าขี้แรดตรงข้ามกับวังตะวันออกให้เป็นอุทยานวังตะวันตก ครั้นเจ้าจอมมารดาปรางสิ้นชีพิตักษัยลง เจ้าพระยานคร (น้อย) ผู้บุตรได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ปลงพระศพ และสร้างขึ้นใหม่ให้เป็นวัดวังตะวันตกคู่กับ
วังตะวันออก ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2431 พระครูกาชาด (ย่อง) พร้อมด้วยสานุศิษย์ได้สร้างกุฎิขึ้นหมู่หนึ่ง
ด้วยประสงค์เพื่อ “เปลื้องธุระสงฆ์ที่วังวนด้วยจากฟากฝา แลจะได้อยู่อาไสยเอาเรียนพระธรรม์บำรุงพุทธศาสนาให้จิรัง” โดยใช้เวลาในการก่อสร้างนาน
ถึง 13 ปี เป็นกุฎิไม้ทรงไทยเรือนเครื่องสับ 3 หลัง มีหลังคาจั่ว แต่ละหลังคาคลุมเชื่อมต่อกัน ตัวเรือนฝาปะกน ตามประตู หน้าต่างและช่องลม ประดับด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของ
เมืองนคร ปี พ.ศ. 2535 สมาคมสถาปนิกสยามคัดเลือกกุฏิวัดวังตะวันตกให้เป็นอาคารอนุรักษ
์ดีเด่น ประเภทปูชนียสถานและวัดวาอาราม

น้ำตกท่าแพ
อยู่หมู่ที่ 14 ตำบลช้างกลาง สามารถเดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปตามเส้นทางสายนครศรีธรรมราช-จันดี -ฉวาง-บ้านส้อง (ทางหลวงหมายเลข 4015) ระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร และมีทางแยกขวามือมีป้ายบอกทางเข้าน้ำตกประมาณ 2 กิโลเมตร น้ำตกท่าแพมีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่น มีทั้งหมด 10 ชั้น ชั้นที่นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำได้ คือ หนานแพน้อย หนานนางครวญ และหนานเตย

น้ำตกอ้ายเขียว หรือในเขียว
อยู่ตำบลทอนหงส์ ห่างจากอำเภอเมือง ประมาณ 30 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 4016 ใช้เส้นทางเดียวกับน้ำตกพรหมโลก แต่เลยไปจนถึงกิโลเมตรที่ 24 มีทางแยกซ้ายเข้าไปอีก 5 กิโลเมตร ต้นน้ำเกิดจากเขาหลวงเช่นกัน มีทั้งหมด 15 ชั้น เช่น หนานช่องไทร หนานบังใบ
หนานไม้ไผ่ หนานเสือผ่าน หนานบุปผาสวรรค์ หนานหินกอง หนานหัวช้าง หนานไทรกวาดลาน หนานฝาแฝด สภาพทั่วไปยังคงเป็นป่าทึบ สองข้างทางเข้าน้ำตกเป็นสวนพลู ชาวนครเรียกว่า “พลูปากหราม” เพราะมีรสเผ็ดร้อน กลิ่นหอม การเดินทางไปชมน้ำตกควรจะไปในช่วงหน้าฝนเพราะน้ำจะไหลแรงเป็นสายสีขาวจากผา สูง
ดูสดชื่น และหากจะชมทิวทัศน์ยอดเขาหลวงซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,835 เมตร ควรไปชมที่น้ำตกแห่งนี้

ชายทะเลปากพนังและแหลมตะลุมพุก

เป็นสถานที่ซึ่งอยู่บริเวณตอนบนของอำเภอปากพนัง ด้านที่ติดกับทะเลด้านใน (อ่าวนครฯ) มีประชากรตั้งถิ่นฐานอยู่ ส่วนด้านนอกที่ติดกับอ่าวไทยเป็นหาดทรายและมีต้นสนขึ้นเป็นแนวยาว เป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์มหาวาตภัยครั้งใหญ่จากพายุโซนร้อนแฮร์เรียตพัดถล่ม แหลมตะลุมพุก เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2505 ระดับน้ำสูง 5 เมตร กำลังลม 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คลื่นสูง 6.8 เมตร มีชาวแหลมตะลุมพุกสูญหายกว่า 1,300 คน ลักษณะของชายหาดปากพนังเป็นชายหาดยาวไปตามชายฝั่งทะเล มีแหลมตะลุมพุกเป็นแหลมทรายรูปจันทร์เสี้ยวยื่นไปในอ่าวไทย สามารถขับรถไปจนถึงปลายแหลมได้ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4013 (นครศรีธรรมราช-ปากพนัง) มีทางแยกเข้าสู่แหลมตะลุมพุก
ประมาณ 16 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางมีการทำนากุ้งสองข้างทางสลับกับแนวป่าชายเลน


น้ำตกพรหมโลก
อยู่ตำบลพรหมโลก ห่างจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4016 (นครศรีธรรมราช-พรหมคีรี) ถึงกิโลเมตรที่ 20 มีทางแยกซ้ายเข้าทางหลวง 4132 อีกประมาณ 5 กิโลเมตร จัดว่าเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีลานหินกว้างและสวยงามแห่งหนึ่ง มีต้นน้ำจากเทือกเขานครศรีธรรมราชไหลลงมาบนแผ่นหิน 4 ชั้น (หนาน) ได้แก่ หนานบ่อน้ำวน หนานวังไม้ปัก หนานวังหัวบัว หนานวังอ้ายแล สายน้ำไหลผ่านหมู่ไม้นานาพันธุ์ริมเชิงเขา แล้วไหลไปเป็นคลองท่าแพและลงสู่อ่าวไทยที่ตำบลปากพูน

ยอดเขาหลวง

มีกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติตามเส้นทางบ้านคีรีวง-ยอดเขาหลวง ซึ่งมีความสูง 1,835 เมตร ใช้เวลาในการเดินศึกษาท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน เสียค่าใช้จ่ายคนละ 1,500 คน การเดินไม่ควรจะเกินครั้งละ 15 คน ช่วงเดือนที่เหมาะจะเดินป่ายอดเขาหลวง คือเดือนมกราคม-มิถุนายน ผู้สนใจขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประสานงานบ้านคีรีวง โทร. 0 9501 2706


เขาพลายดำ

แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งทะเลใต้ ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งใน อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช  อยู่ห่างจากจังหวัดนครศรีธรรมราช 86 กิโลเมตร มีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง คือ หาดหินงาม หาดในเพลา เขาพลายดำวันนี้ยังคงสภาพป่าที่สมบูรณ์ สถานที่นี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์พันธุ์ไม้ป่าและสัตว์ป่า แหล่งท่องเที่ยวเขาพลายดำ
ได้แก่

 


พระวิหารสูง หรือหอพระสูง

เป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองโบราณนครศรีธรรมราชด้านทิศเหนือในบริเวณสนามหน้าเมือง ใกล้สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถนนราชดำเนิน เรียกชื่อตามลักษณะของการก่อสร้างของพระวิหารซึ่งสร้างบนเนินดินที่สูงกว่า พื้นปกติถึง
2.10 เมตร ไม่ปรากฏหลักฐานแสดงประวัติอย่างแท้จริง แต่สามารถสันนิษฐานจากลักษณะของสถาปัตยกรรม และจิตรกรรมฝาผนังว่าสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นแกนดินเหนียว สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพุทธศตวรรษที่ 23–24 หรือในสมัยอยุธยาตอนปลาย


หาดสิชล หรือ ชาวท้องถิ่นเรียกกันว่า หัวหินสิชล

เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อมานานของอำเภอสิชล บริเวณชายหาดเป็นแนวหินไปจนจด
หาดทรายโค้ง เป็นบริเวณที่เล่นน้ำได้ บนหาดมีที่พักและร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว


บ้านหนังตะลุงสุชาติ ทรัพย์สิน
เลขที่ 10/18 ถนนศรีธรรมโศก ซอย 3 ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2539 รางวัลดีเด่นประเภทวัฒนธรรมและโบราณสถาน บริเวณบ้านหนังตะลุงได้จัดแบ่งเป็นพิพิธภัณฑ์หนังตะลุง จัดแสดงหนังตะลุงประเภทต่างๆ สาธิตการแกะรูปหนังตะลุง  มีเวทีสาธิตหนังตะลุงอย่างครบวงจร นักท่องเที่ยวและผู้สนใจสามารถเข้าชมและศึกษาศิลปวัฒนธรรมได้ทุกวัน โทร. 0 7534 6394

แหล่งโบราณคดีเขาคา

อยู่ตำบลเสาเภา ตามทางหลวงหมายเลข 401 จากสี่แยกจอมพิบูลย์ ถึงกิโลเมตรที่ 99 แยกซ้ายเข้าถนนจินดาประชาสวรรค์ประมาณ 7 กิโลเมตร โบราณคดีเขาคามีอายุกว่า 1,500 ปี บริเวณเขาคาเป็นศาสนสถานสำคัญในลัทธิไศวนิกาย ซึ่งเคารพนับถือพระศิวะหรือพระอิศวรเป็นเทพเจ้าสูงสุด มีเขาคาประดุจเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลางและโบราณสถานเล็ก ๆ กระจายเป็นบริวารโดยรอบ มีการค้นพบโบราณวัตถุที่ใช้พิธีกรรม เช่น ฐานโยนิ ศิวลึงค์ ท่อโสมสูตร (ท่อน้ำมนต์) ตลอดจนซากโบราณสถานที่เป็นเทวสถาน สระน้ำโบราณ กรมศิลปากรได้ทำการบูรณะเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2540


กำแพงเมือง
ยู่ริมถนนราชดำเนิน เป็นกำแพงที่ซ่อมขึ้นใหม่ตามรูปเดิมในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และได้รับการบูรณะเพิ่มเติมขึ้นอีกในปี พ.ศ. 2533 เป็นแนวขนานไปกับคูเมือง ตั้งแต่ป้อมประตูชัยเหนือ หรือประตูชัยศักดิ์ ไปทางตะวันออก ยาวประมาณ 100 เมตร

้อนุสาวรีย์วีรไทย (ค่ายวชิราวุธ)
ตั้งอยู่ในค่ายวชิราวุธ (กองทัพภาคที่ 4) ถนนราชดำเนิน เป็นอนุสาวรีย์ที่หล่อด้วย
ทองแดงรมดำ เป็นรูปทหารเตรียมรบสองมือจับปืนติดดาบเตรียมแทง ชาวบ้านเรียกว่า
“จ่าดำ” หรือ “เจ้าพ่อดำ” สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ของทหารไทยในภาคใต้ที่เสียชีวิตในการปะทะกับทหาร ญี่ปุ่น ในสงครามมหาเอเชียบูรพา เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2484
นอกจากนี้ ในค่ายวชิราวุธยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ
พิพิธภัณฑ์วีรไทยเฉลิมพระเกียรติ เฉลิมพระชนมายุ 72 พรรษา ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับอนุสาวรีย์วีรไทย เป็นอาคารชั้นเดียวที่ใช้ในการจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามมหาเอเชีย บูรพา ครั้งกองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกตามชายฝั่งทะเลภาคใต้ของไทย เมื่อ พ.ศ. 2484

สอบถามเพิ่มเติมที่ กองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โทร 0 7538 3444-5

ถ้ำหงส์
เป็นถ้ำขนาดกลาง ปากถ้ำค่อนข้างเล็กขนาดคนรอดได้ทีละคน ต้องใช้ความระมัดระวังในการลงไต่ลงไปในถ้ำ ภายในถ้ำมีธารน้ำไหลผ่านตลอดแนวถ้ำ ก่อนไหลลงใต้ดินไปสู่ลำธารภายนอก ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปร่างต่าง ๆ กัน และมีลักษณะพิเศษที่พบเห็นได้ไม่มากนัก คือ ภายในถ้ำมีน้ำตกที่ไหลผ่านหินสามชั้น การเที่ยวชมภายในถ้ำจะต้องเดินท่องน้ำตลอด สามารถเดินทะลุออกไปอีกด้านหนึ่งได้ ความยาวประมาณ 300 เมตร ถ้ำหงส์นี้อยู่ในความดูแลของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขานันที่ ขน.6 (คลองลำแพน) การเดินทางไปตามเส้นทางเดียวกับน้ำตกกรุงชิง แต่ถึงก่อน

วัดนันทาราม

เดิมชื่อวัดใต้ อยู่ถนนชายน้ำ ปากพนังฝั่งตะวันออกเป็นวัดที่ประดิษฐานหลวงพ่อผุด พระพุทธรูปหินทรายแดง ศิลปสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดยังได้เก็บรักษาศิวลึงค์องค์ใหญ่องค์หนึ่งพบที่โบราณสถานเขาคา อายุประมาณ 1,200 ปี ในราวศตวรรษที่ 12–14 สลักจากหินปูนและสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่พบในภาคใต้


หาดคอเขา (หาดปิติ)

หาดจะต่อจากหาดหินงาม บริเวณโดยรอบได้รับการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านที่พักและร้านอาหารสำหรับ บริการนักท่องเที่ยวการเดินทาง โดยทางหลวงหมายเลข 401 จากอำเภอเมือง ประมาณ 70
กิโลเมตร เข้าสู่อำเภอสิชล จากตัวอำเภอสิชลแยกขวาไปทางบ้านปากน้ำ ระยะทาง 3 กิโลเมตร ถึงชายหาดสิชล และจากหาดสิชลไปอีก 1.5 กิโลเมตร ถึงหาดหินงาม และหาดคอเขา ซึ่งอยู่ห่างจากหาดหินงามไป 2 กิโลเมตร


หาดหินงาม

บริเวณชายหาดเต็มไปด้วยก้อนหินกลมเกลี้ยง มีสีสันสวยงามและเป็นที่มาของชื่อหาดหินงาม ตลอดแนวชายหาดไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกบริการ

 


หอพระนารายณ์

ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน ตรงข้ามหอพระอิศวรเป็นโบราณสถานในศาสนาพราหมณ์อีกแห่งหนึ่ง อาคารหอพระนารายณ์เดิมไม่สามารถสืบทราบรูปแบบได้แล้ว สิ่งที่พบภายในหอพระนารายณ
์ ได้แก่ เทวรูปพระนารายณ์สลักจากหินทรายสีเทาทรงหมวกรูปกระบอกปลายสอบและ
พระหัตถ์ขวา
ทรงสังข์ มีอายุราวพุทธศตวรรษ ที่ 10–11 นับเป็นเทวรูปที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันได้เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช โบราณวัตถุที่ตั้งแสดงอยู่ในหอพระนารายณ์ขณะนี้คือ เทวรูปพระนารายณ์จำลองจากองค์จริงที่พบในแหล่งโบราณคดีแถบอำเภอสิชล


หอพระอิศวร

อยู่ริมถนนราชดำเนิน เป็นโบราณสถานในศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย เป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของพระอิศวร และฐานโยนิ รวมทั้งเทวรูปสำริดอีกหลายองค์ อาทิ เทวรูปศิวนาฏราช พระอุมา และพระพิฆเนศ ปัจจุบันเทวรูปสำริดในหอพระอิศวรเป็นของจำลอง ของจริงได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช

 


สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด)

อยู่ที่ถนนราชดำเนิน เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่มีเนื้อที่ประมาณ 1,257 ไร่ ตั้งอยู่หลังสนามกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของ “สวนราชฤดี”
ในสมัย ร.5 ภายในสวนมีสวนสัตว์เปิด สวนนกนานาชนิด สวนสุขภาพ รวมทั้งทะเลสาบซึ่งเป็นที่อาศัยของนกเป็ดน้ำที่อพยพมาจากถิ่นอื่นในช่วง มกราคมถึงมีนาคม ของทุกปี และยังมีอาคารที่มีการจัดแสดงเป็น "พิพิธภัณฑ์เมืองนครฯ"

 


วัดสวนป่าน

อยู่ใกล้สามแยกหอนาฬิกา ถนนศรีธรรมโศก ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับ
สมัยรัชกาลที่ 5 เสด็จมาประทับที่วัดสวนป่าน เมื่อครั้งเสด็จกลับจากประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี พ.ศ.2441 และภาพพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ผลงานของ แนบ ทิชินพงศ์ ผู้มีผลงานดีเด่นด้านศิลปของนครศรีธรรมราช วาดเสร็จตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 ผู้สนใจชมต้องติดต่อกับทางวัดเพื่อเปิดประตูโบสถ์

 


วัดสวนหลวง

ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช อยู่ภายในเขตเมืองพระเวียงอันเป็นเมืองโบราณ วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามนามว่า สมเด็จเจ้าแม่ลาวทอง ปางอุ้มบาตร และเป็นพระพุทธรูปสำคัญในงานประเพณีลากพระในเทศกาลออกพรรษา โดยจะอัญเชิญสมเด็จเจ้าแม่ลาวทองประดิษฐานบน “นมพระ” หรือ “พนมพระ” (บุษบก) และชักลากไปทั่วเมืองเพื่อให้พุทธศาสนานิกชนได้ร่วมบุญด้วยการ “ลากพระ” ตามประเพณีโบราณที่สืบทอดกันมา และพระอุโบสถในวัดสวนหลวงนั้นเป็นพระอุโบสถสมัยอยุธยา โดยมีภาพปูนปั้นฝีมือช่างท้องถิ่นเกี่ยวกับพุทธประวัติประดับอยู่ผนังภายใน พระอุโบสถ


เจดีย์ยักษ์

อยู่ริมถนนศรีปราชญ์ ข้างสำนักงานเทศบาลนครศรีธรรมราช เป็นเจดีย์สูงใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเจดีย์พระบรมธาตุ ทรงเจดีย์เป็นแบบลังกา สันนิษฐานว่าชาวลังกาที่สร้างพระบรมธาตุเป็นผู้สร้าง ราวพ.ศ. 1800–1900 มีการซ่อมสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ตอนต้น แต่ก่อนองค์เจดีย์ทรุดโทรมมากและยอดหัก กรมศิลปากรได้ซ่อมแซมในปี พ.ศ. 2518–2522 ด้านหน้าพระเจดีย์มีวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปั้นนั่งองค์ใหญ่ สมัยอยุธยา เรียกพระเงินหรือหลวงพ่อเงิน


เก๋งจีนวัดประดู่

ตั้งอยู่ในบริเวณวัดประดู่ ถนนราชดำเนินใกล้สนามกีฬาจังหวัดสร้างสมัยต้นรัตนโกสินทร์ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นแบบจีนเช่นเดียวกับเก๋งจีนวัดแจ้ง โดยเป็นที่ประดิษฐานอัฐิเจ้าพระยานคร (น้อย) ผู้เป็นบุตรของเจ้าพระยานคร (หนู)

 


ุเก๋งจีนวัดแจ้ง

ตัวอาคารเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนรูปทรงอย่างอาคารจีนภายในประดิษฐานบัวบรรจุ อัฐิของเจ้าพระยานคร (หนู) และหม่อมทองเหนี่ยวผู้เป็นชายา ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตวิทยาลัยสงฆ์ภาคทักษิณซึ่งอยู่ในวัดแจ้ง ถนนราชดำเนิน

 


น้ำตกยอดเหลือง หรือน้ำตกเมืองใหม่

อยู่ทางทิศใต้ของน้ำตกกรุงชิง หมู่ที่ 6 ตำบลนาเหรง เป็นน้ำตกขนาดกลางมี 4 ชั้น คือ หนานเตย หนานกระโดด หนานหญ้าคา หนานปลิว สามารถลงเล่นน้ำได้ สภาพทั่วไปเป็นป่าร่มครึ้ม

การเดินทาง จากตัวเมืองใช้เส้นทางสายนครศรีธรรมราช-พรหมคีรี (ทางหลวงหมายเลข 4016) ระยะทาง 40 กิโลเมตร


อ่าวท้องหยี
มีสภาพแวดล้อมเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ เหมาะสำหรับการพักแรมแบบแค้มปิ้ง หรือ เต็นท์ อ่าวท้องหยีมีพื้นที่อยู่ในวงล้อมของเขาเพลาและเขากลาง ทำให้ชายหาดสงบเงียบและ
เป็นส่วนตัว การพักแรมต้องติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของสถานที่ การเดินทางใช้เส้นทางถนนลูกรังต่อจากหาดในเพลาที่บริเวณขนาบน้ำรีสอร์ท ระยะทาง
2.5 กิโลเมตร

ถ้ำเขาวังทอง

ห่างจากตัวเมือง 77 กิโลเมตร เป็นถ้ำที่มีความงดงามทางธรรมชาติแห่งหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในถ้ำเขาวังทองมีลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้างหลายห้อง แต่ละห้องมีหินงอกหินย้อยที่มีลักษณะรูปร่างต่างกันไป บ้างคล้ายเจดีย์ ไดโนเสาร์ น้อยหน่า หรือไข่ดาว เป็นต้น การเข้าชมบางห้องจะต้องใช้วิธีคลาน ลอด หรือปีนป่าย ภายในถ้ำมีไฟ ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง เสียค่าเข้าชม 30–50 บาท ผู้ที่ต้องการเข้าชมถ้ำวังทองต้องติดต่อขอกุญแจจากผู้ดูแลถ้ำที่บ้านตรงปาก ทางเข้าถ้ำ หรือ
โทร. 0 9672 4995
ก ารเดินทาง จากอำเภอขนอมเลี้ยวขวาตรงทางแยกไปยังอำเภอดอนสัก และเลี้ยวซ้ายอีก
ครั้งหนึ่ง ตรงปากทางเข้ามีศาลาที่พักผู้โดยสารเป็นที่สังเกต (ชื่อศาลาตันสกุล) เข้าไปอีก
ประมาณ 6 กิโลเมตร ถึงปากทางเข้าถ้ำ


น้ำตกสวนอาย
อยู่หมู่ที่ 5 ตำบลคลองละอาย สามารถเดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ไปตามเส้นทางสายนครศรีธรรมราช-ลานสกา-จันดี (ทางหลวงหมายเลข 4015) ระยะทาง 55
กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามมี 5 ชั้น ชั้นที่สามารถเล่นน้ำได้ คือ หนานช่องส้มหลอด หนาน
ต้นเหรียง และหนานเลากา

วัดถ้ำทองพรรณรา

อยู่หมู่ที่ 9 ตำบลถ้ำพรรณรา ห่างจากถนนเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 41) หลักกิโลเมตรที่
192–193 ประมาณ 2 กิโลเมตร ห่างจากที่ว่าการอำเภอ 1 กิโลเมตร ตำนานเล่าว่ามีชีปริงและชีปรางนำสัมภาระและผู้คนเดินทางมาทางทะเลเพื่อนำ แก้วแหวนเงินทองไปสร้างพระบรมธาตุ เมื่อมาถึงอู่เรือ (ปัจจุบันคือบ้านปากรา) ได้ทราบว่าพระบรมธาตุสร้างเสร็จแล้ว จึงได้ขึ้นบกหาสถานที่ที่เหมาะสมคือ ถ้ำทอง แล้วได้สร้างพระพุทธไสยาสน์ในถ้ำดังกล่าว และนำแก้วแหวนเงินทอง บรรจุไว้ในองค์พระพุทธไสยาสน์นั้นด้วย เมื่อถึงแก่กรรม ลูกหลานจึงได้สร้างพระพุทธรูปขึ้น
2 องค์ นำกระดูกของชีปริง ชีปรางบรรจุ พอถึงวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 จะมีการทำบุญบูชาพระพุทธไสยาสน์และพระพุทธรูปที่บรรจุกระดูกชีปริง ชีปราง ซึ่งต่อมา
เรียกว่า พระปริง พระปราง เป็นประจำตลอดมาทุกปี ซึ่ง “ประเพณีขึ้นถ้ำ” ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ
เดือน 11 ของทุกปี ประชาชนทั่วสารทิศมานมัสการพระพุทธไสยาสน์ แก้บนด้วยขนมพอง
ขนมลา และเที่ยวชมถ้ำต่าง ๆ ภายในวัด ซึ่งมีอยู่หลายถ้ำ ทั้งเป็นถ้ำแจ้งและถ้ำมืด


โบราณคดีวัดโมคลาน

ตั้งอยู่หมู่ 12 ตำบลโมคลาน ห่างจากตัวอำเภอ 10 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 401 ถึงบ้านหน้าทัพเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงสาย 4022 อีก 6 กิโลเมตร เดิมเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกายขนาดใหญ่มาก่อน อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 12–14 ต่อมาเทวสถานแห่งนี้ถูกทิ้งร้างไป จนสมัยอยุธยากลุ่มชุมชนได้มาสร้างวัดขึ้นใหม่
จนปี 2480 มีพระมาสร้างเป็นสำนักสงฆ์และเป็นวัด หลักฐานที่ยังคงมีอยู่ให้เห็น ได้แก่ แนวเสาหิน หินแกะสลักกรอบประตูอาคาร ธรณีประตู ชิ้นส่วนโยนิและศิวลึงค์ สระน้ำโบราณ แท่นตั้งเทวรูป กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2518


น้ำตกสี่ขีด

นครศรีธรรมราชตอนบน ครอบคลุมพื้นที่อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช และอำเภอ
กาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2542 มีเนื้อที่ทั้งหมด 90,625 ไร่ มียอดเขาคีโหมดเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูง 1,303 เมตร ปกคลุมด้วยป่าดิบชื้นมีระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ มีพรรณไม้ที่พบ ได้แก่ ไม้ในวงศ์ไม้ยาง
ตะเคียนทอง หลุมพอ จำปาป่า สัตว์ป่าก็มีชุกชุม เช่น สมเสร็จ เลียงผา นกประจำถิ่นภาคใต้ท
ี่หายาก อากาศค่อนข้างเย็นสบาย จะมีฝนตกชุกเดือนพฤศจิกายน


ศาลาโดหก หรือศาลาประดู่หก

อยู่ริมถนนราชดำเนิน เดิมเป็นศาลานอกกำแพงเมืองตรงประตูชัยเหนือ อันเป็นที่พักของคน
เดินทาง ซึ่งเข้าเมืองไม่ทัน เพราะประตูเมืองปิดเสียก่อน ศาลาแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างต้นประดู่
(ต้นโด) หกต้น ชาวนครเรียกว่า “หลาโดหก” ศาลาหลังที่มีอยู่ทุกวันนี้สร้างขึ้นใหม่เป็นศาลาทรงไทยอยู่ริมถนนราชดำเนิน ส่วนต้นประดู่ทั้งหกต้นได้ตายไปหมดแล้ว ทางเทศบาลจึงปลูกขึ้นใหม่เพื่อเป็นที่ระลึกถึงประดู่ทั้งหกต้น


ถ้ำตลอด

ห่างจากที่ว่าการอำเภอทุ่งสง 500 เมตร เลี้ยวซ้ายทางไปโรงพยาบาลทุ่งสง เป็นถ้ำเล็ก เกิดจากภูเขาชัยชุมพล ตัวถ้ำสามารถเดินทะลุได้ตลอด จึงได้ชื่อว่าถ้ำตลอดหรือถ้ำหลอด ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เป็นเรื่องราวพุทธประวัติเขียนโดยอาจารย์แนบ ทิชินพงศ์ จิตรกรชาวนครศรีธรรมราชที่มีชื่อเสียง รอบบริเวณถ้ำเป็นสวนสาธารณะไว้สำหรับพักผ่อน


บ้านคีรีวง

เป็นชุมชนเก่าแก่ที่อพยพไปอาศัยอยู่เชิงเขาหลวง ตำบลกำโลน อันเป็นเส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดเขาหลวง ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่สงบสังคมแบบเครือญาติ อาชีพหลักคือการทำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ ชุมชนบ้านคีรีวง แบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มมัดย้อม กลุ่มสมุนไพร กลุ่มจักสาน
กะลามะพร้าว กลุ่มแปรรูปน้ำผลไม้ กลุ่มไวน์ และกลุ่มทุเรียนกวน ซึ่งแต่กลุ่มจะมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวก็มักจะซื้อเป็นของฝากกันอยู่เสมอ สินค้าราคาไม่แพงและมีคุณภาพ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2531 ได้เกิดมหาอุทกธรณีภัย หมู่บ้านถูกน้ำพัดหายไปนับ 100 หลัง ซึ่งวัดและชาวคีรีวงได้รักษาพระอุโบสถและบ้านที่ประสบภัยไว้เป็นอนุสรณ์สถาน ชุมชนคีรีวงได้เป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2541 ประเภทเมืองและชุมชน เนื่องจากเป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตแบบชาวสวนอยู่กับธรรมชาติ และได้พัฒนาการบริการนักท่องเที่ยวขึ้นมาเป็นธุรกิจใหม่ของชุมชน ประกอบด้วยการนำ
ทางเดินป่า ลูกหาบ การจัดที่พักแบบโฮมสเตย์ โดยการจัดตั้งชมรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เป็นองค์กรกลางของชาวชุมชนจัดแบ่งหน้าที่ไปยังกลุ่มต่าง ๆ ให้เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างทั่วถึง การพักแบบโฮมสเตย์ ผู้สนใจจะเสียค่าที่พัก
คืนละ 100 บาท ค่าอาหาร 50 บาท แต่สำหรับผู้ที่ต้องการจะเรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตชาวคีรีวง จะเสียค่านำเที่ยว 1,300 บาท ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน นักท่องเที่ยวจะเข้าไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชุมชนคีรีวงได้ตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูกาลผลไม้ออกชุกเดือนกรกฎาคม-กันยายน

การ เดินทางไปบ้านคีรีวง จากอำเภอเมือง ตามทางหลวงหมายเลข 4016 จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4015 บริเวณกิโลเมตรที่ 9 เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านคีรีวง
เข้าไป 9 กิโลเมตร หรือขึ้นรถสองแถวจากตลาดยาว ในอำเภอเมือง มีรถออก ตั้งแต่เวลา
07.00-16.00 น. ราคา 20 บาทสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ อบต.กำโลน โทร. 0 7553 3111-2 เว็บไซตหรือติดต่อศูนย์ประสานงานบ้านคีรีวง โทร. 0 7553 3113


พระตำหนักเมืองนคร

จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 บริเวณกิโลเมตรที่ 23–24 พระตำหนักนี้ตั้งอยู่ในบริเวณสวนผลไม้เก่าแก่ของตระกูลทองสมัครซึ่งเป็นผู้ สร้างเรือนรับรองถวายในนามของชาวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในคราวที่เสด็จมาทรงงานที่เมืองนครศรีธรรมราช บริเวณโดยรอบแวดล้อมร่มรื่นด้วยไม้ผลและไม้ประดับ พระตำหนักเมืองนครเปิดให้เข้าชมได้ทุกวันเวลา 8.00–17.00 น. เว้นวันพุธและเวลาที่พระราชวงศ์เสด็จประทับ โทร. 0 7539 6300


บ้านปลายอวน

หมู่ 5 ตำบลพรหมโลก อยู่เชิงเขาหลวงใกล้น้ำตกพรหมโลก เดินทางตามทางหลวงหมายเลข 4016 บริเวณกิโลเมตรที่ 19 เลี้ยวซ้าย เป็นชุมชนที่ประกอบอาชีพสวนผลไม้ เช่น ลองกอง มังคุด ชาวบ้านมีการจัดตั้งชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติ จัดกิจกรรมการเดินป่า คือเส้นทางจากหมู่บ้านไปถึงน้ำตกพิมานเมฆ ซึ่งมีความสูง 1,505 เมตร ระยะทาง 6 กิโลเมตร ตามเส้นทางมีพรรณไม้ สัตว์ป่า ถ้ำ สายน้ำลำธารและต้นเต่าร้างแดงยักษ์ และการเดินป่ายอดเขาหลวง ใช้เวลาเดินทาง 3 วัน 2 คืน ค่าใช้จ่ายคนละ 1,500 บาท ติดต่อรายละเอียดได้ที่ ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติบ้านปลายอวน โทร. 0 7533 8633


บ้านรังนก
อำเภอปากพนังเป็นอำเภอที่มีชื่อในเรื่องของนกนางแอ่นที่เข้ามาทำรังอยู่ใน ชุมชนเมือง มีบ้านและตึกแถวหลายหลังที่ถูกปิดลง เนื่องจากมีนกนางแอ่นจำนวนมากเข้าไปอาศัยอยู่และทำรังในบ้านเหล่านั้น เช่นเดียวกับนกที่อาศัยอยู่ตามถ้ำหรือเกาะ ลักษณะบ้านเป็นตึกสูงประมาณ 6 ชั้น ปืดทึบตลอดทั้งตึกจะมีก็เพียงช่องเล็ก ๆ ที่จะให้นกบินเข้าออกเพื่อทำรัง จะเห็นได้ในอำเภอ
ปากพนัง บ้านหรือตึกแถวเหล่านี้เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล จึงไม่สะดวกในการเปิดให้เข้าชม
โดยทั่วไป และในปัจจุบันมีชาวบ้านได้ปลูกบ้านเพื่อที่จะให้นกนางแอ่นเข้ามาทำรังโดย เฉพาะอยู่เป็นจำนวนหลายหลัง

น้ำตกคลองจัง
เป็นน้ำตกขนาด 7 ชั้น ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราชและภาคใต้ ไหลจากเทือกเขาเหมน เป็นยอดเขาที่มีความสูงรองจากเขาหลวงและเขานัน (เทือกเขานครศรีธรรมราช) บริเวณน้ำตกยังเป็นป่าที่สมบูรณ์
การเดินทาง จากตัวเมืองใช้เส้นทางสายนครศรีธรรมราช-ทุ่งสง (ทางหลวงหมายเลข 401) ถึงสามแยกควนไม้แดง เลี้ยวเข้านาบอน (ทางหลวงหมายเลข 4230) ระยะทาง
ประมาณ 11 กิโลเมตร

พิพิธภัณฑ์เมืองนครศรีธรรมราช
ตั้งอยู่ในอาคารวีรไทย ในสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด)
ถนนราชดำเนิน  จัดแสดงเกี่ยวกับเมืองนครฯ ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ถึงยุคปัจจุบัน ความรู้เรื่องชื่อเมือง ตรา 12 นักษัตร (ตราประจำเมือง) การตั้งถิ่นฐานของผู้คน  การรับอิทธิพลด้านวัฒนธรรมจากต่างแดน ความสำคัญของนครฯ ในฐานะเมืองท่า ประวัติสังเขปของบุคคลสำคัญเมืองนครฯ เรื่องราวทางศาสนา เช่นศาสนสถานต่างๆ
เรื่องราววิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี การละเล่น เหตุการณ์สำคัญของชาวเมืองนครฯ และนิทรรศการหมุนเวียน ในปี 2546 เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ปรับปรุงอาคารวีรไทย และจัดทำเป้นพิพิธภัณฑ์เมือง เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของเมือง โดยได้รับความร่วมมือจากทั้งหน่วยงานราชการและเอกชน ตลอดจนประชาชนในท้องถิ่น และเมื่อเปิดทำการก็ได้กระแสตอบรับดีเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น เพื่อให้พิพิธภัณฑ์เมืองนครศรีธรรมราชมีความสมบูรณ์ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ประวัติเมืองและวิถีชีวิตครบถ้วน จึงได้จัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์เพิ่มเติม โดยวิธีจัดแสดงด้วยสื่อทันสมัย เพื่อสร้างความน่าสนใจ ให้ผู้ชมได้เรียนรู้และจดจำได้ง่าย อันจะเป้นประโยชน์ต่อผู้ชมและบรรลุวัตถุประสงค์ของพิพิธภัณฑ์เมือง พิพิธภัณฑ์เมืองนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ที่ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด)
ถนนราชดำเนิน ตำบลนาเคียนเวลาทำการ อังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 09.00-17.00 น. โทรศัพท์ 0 7535 8261 โทรสาร 0 7535 6164

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช www.thailandmuseum.com

ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน ตรงข้ามวัดสวนหลวง ตำบลในเมือง เป็นอาคารทรงไทย 2 ชั้น
สร้างเมื่อ พ.ศ. 2514 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเปิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2517 บริเวณโดยรอบพิพิธภัณฑสถานฯ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ภายในอาคารจัดแสดงโบราณวัตถุที่พบในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้ เคียง โบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ศิลปะสมัยทวารวดีจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เครื่องถ้วยจีน เครื่องถ้วยอันนัม (ญวณ) เครื่องสังคโลก เงินตราสมัยต่าง ๆ ศิลปพื้นบ้านภาคใต้ หนังตะลุง มโหรสพพื้นบ้านภาคใต้ เครื่องมือเครื่องใช้ในการดำรงชีวิตของคนภาคใต้ ได้แก่ เครื่องมือในการทำนา เครื่องทอผ้า อุปกรณ์การกรีดยาง รากไม้แก้วแกะสลักเป็นรูปสัตว์กว่าร้อยชนิดอยู่รวมกันเป็นฝีมือของ นายอ่ำ ศรีสัมพุทธ ซึ่งได้รับรางวัลที่ 1 ประเภทงานแกะสลักของจังหวัดในงานเดือนสิบ และมรดกดีเด่นของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ พนักกันยา เรือพระที่นั่งทำด้วยแผ่นเงินขนาดใหญ่ถมทองอย่างสวยงามถือว่าเป็นถมทองชิ้น เยี่ยมที่สุดและใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช และยังมี หน้าบันไม้จำหลักภาพเทพรำศิลปะภาคใต้ เครื่องถม เครื่องทองเหลือง ผ้ายกเมือง
นครศรีธรรมราช รถม้าโบราณ เป็นต้น เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ –วันอาทิตย์ เว้นวันจันทร์-
วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00–16.00 น. ค่าเข้าชมคนไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
นครศรีธรรมราช อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80000 โทร. 0 7534 1075,
0 7534 0419, 0 7535 6229 โทรสาร 0 7534 0419


ชุมชนกลุ่มทะเลหมอกกรุงชิง
ชุมชนกลุ่มทะเลหมอกกรุงชิง ชุมชนได้ร่วมมือจัดตั้งกลุ่มขึ้นเพื่อจัดกิจกรรมท่องเที่ยวชมทะเลหมอกยาม เช้า โดยให้บริการจิบกาแฟยามเช้า พร้อมรับฟังบรรยายประวัติเขาเหล็ก และประวัติพื้นที่กรุงชิง พื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์แห่งการต่อสู้ด้านความคิดการปกครองในพื้นที่ผืน ป่ากรุงชิง ถูกปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 ต่อมาฝ่านรัฐบาลสามารถยึดพื้นที่ได้ป่ากรุงชิงคืนในปี 2524 ปัจจุยันยังคงทิ้งร่องรอยประวัติศาสตร์การต่อสู้ เช่น ถ้ำหลบภัย หลุมขวาก สนามบาสเก็ตบอล ให้นักท่องเที่ยวได้ไปศึกษาหาความรู้ หากสนใจติดต่อได้ที่ คุณกาญจนา โทร. 08 1080 1441

พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติเพื่อพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกิดจากโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุงและสงขลา ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในบริเวณสถานที่ดำเนินโครงการพื้นที่ลุ่มน้ำปาก พนัง ประกอบด้วยห้องทรงงานส่วนพระองค์ ห้องประชุมและห้องนิทรรศการปากพนังในอดีต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังฯ โทร. 0 7551 7933,
0 7551 7534

น้ำตกระแนะ

ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลพิปูน เป็นน้ำตกสูง 10 ชั้น รอบบริเวณร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ การเดินทาง จากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ไปตามเส้นทางสายนครศรีธรรมราช-ลานสกา-จันดี
(ทางหลวงหมายเลข 4015) ระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร (เส้นทางเดียวกับทางไปน้ำตกสวนอายและสวนขัน) จากนั้นใช้เส้นทางสายจันดี-พิปูน ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร ก่อนถึงที่ว่าการอำเภอพิปูน 1 กิโลเมตร ทางแยกขวามือมีป้ายบอกเข้าน้ำตกคลองระแนะ ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร


สำนักวิปัสสนากรรมฐานวัดชายนา

ตั้งอยู่ที่ถนนพัฒนาการทุ่งปรัง หลังวัดท้าวโคตร เป็นสถานที่ที่มีการสอนวิปัสสนากรรมฐานแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยท่านพุทธทาสภิกขุเป็นผู้เริ่มดำเนินการ เพื่อให้เป็นสาขาของวัดสวนโมกข์ บรรยากาศในวัดร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่


วัดเขาขุนพนมและศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาเขาขุนพนม

 อยู่ในเขตหมู่ที่ 3 ตำบลบ้านเกาะ จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 ถึงกิโลเมตรที่ 21 ผ่านตลาดพรหมโลก มีทางแยกขวาไปอีก 2.5 กิโลเมตร วัดเขาขุนพนม เป็นวัดที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี มีถ้ำที่มีกำแพงก่ออิฐถือปูน มีใบเสมาเช่นเดียวกับกำแพงเมือง ผนังด้านหน้ามีลายปูนปั้นประดับเครื่องลายครามจีน ในถ้ำมีพระพุทธรูปสำริดประมาณ 30 องค์ และพระพุทธบาทสำริด ถ้ำในวัดแห่งนี้มีหลาย
ถ้ำทะลุถึงกัน สันนิษฐานว่าเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี แต่บางท่านก็ว่าเป็นที่พักผ่อนสำหรับเจ้าหญิงเกศิณีธิดาของเจ้านราสุริยวงศ์ เจ้าเมือง
นครศรีธรรมราช ช่วง พ.ศ. 2312 - 2319

ริมทางเดินขึ้นเขาขุนพนม มีศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาเขาขุนพนม เพื่อให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศแก่ประชาชน ชุมชนเขาขุนพนมเป็นชุมชนวัฒนธรรม มีกิจกรรมการเข้าค่ายพักอบรม การรวมกลุ่มเป็นชมรมการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาเที่ยวชมสวนผลไม้ด้วยจักรยาน ศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ เปิดให้เข้าชมทุกวันเว้นวันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. โทร. 0 7534 5154


สำนักศิลปและวัฒนธรรม สถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช
ตั้งอยู่ในสถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช อยู่ห่างจากตัวเมืองไปตามเส้นทางนครศรีธรรมราช-
พรหมคีรี (ทางหลวงหมายเลข 4016) ประมาณ 13 กิโลเมตร เป็นสถานที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีที่ขุดค้นพบในนครศรีธรรมราช ซึ่งได้จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้านในอดีต ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมืองในสมัยต่างๆ จนมาเป็นอาณาจักรศรีวิชัย ทั้งยังเป็นศูนย์อนุรักษ์และฟื้นฟูมหรสพพื้นบ้าน เป็นแหล่งค้นคว้ารวบรวมทางด้านภาษาและวรรณกรรม รวมทั้งคติชนวิทยาที่สำคัญได้แก่ข้อความจากศิลาจารึกที่ค้นพบที่เขาช่องคอย และโบราณวัตถุที่ชุมชนโบราณวัดโมคลาน เป็นหลักฐานที่สำคัญที่ระบุว่าเมืองนครศรีธรรมราชสร้างขึ้นเมื่อใด ศูนย์วัฒนธรรมภาคใต้แห่งนี้เปิดให้เข้าชมวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00–16.00 น. โทร. 0 7539 2089

น้ำตกสวนขัน

อยู่หมู่ที่ 3 ตำบลสวนขัน สามารถเดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ไปตามเส้นทางสาย นครศรีธรรมราช-ลานสกา-จันดี (ทางหลวงหมายเลข 4015) ระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร และต่อรถโดยสารประจำทางสายจันดี-พิปูน ระยะทาง 4 กิโลเมตร บริเวณรอบน้ำตกยังเป็นป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์สวยงาม เหมาะแก่การเดินป่า ชมธรรมชาติ ศึกษาพันธุ์ไม้


สนามหน้าเมือง

อยู่นอกกำแพงเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นสนามรบในอดีต ต่อมากลายเป็นสถานที่ใช้ประกอบพิธีกรรมและกิจกรรมทั้งของรัฐและราษฎร เช่น เคยใช้เป็นที่สร้างพลับพลารับเสด็จพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลต่าง ๆ เป็นที่ประกอบพิธีสงกรานต์
ฝึกทหาร และยุวชนทหาร และจัดงานประเพณีที่สำคัญของชาวนครรวมทั้งงานรื่นเริงอื่น ๆ บริเวณที่อยู่ใกล้หอพระสูงมีอาคารสถาปัตยกรรมท้องถิ่นที่สร้างแล้วเสร็จ เมื่อ พ.ศ. 2469 ชื่ออาคารศรีธรรมราชสโมสร ปัจจุบันคือ สำนักงาน ททท. ภาคใต้ เขต 2 สมาคมสถาปนิกสยามได้มอบรางวัลดีเด่นด้านอนุรักษ์สถาปัตยกรรม ประจำปี 2537 และทางด้านหลังสำนักงาน ททท. คือ ถนนท่าช้าง ได้ชื่อว่าเป็นถนนหัตถกรรม เพราะมีอาคารร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมนานาชนิด อันเป็นเอกลักษณ์ เก่าแก่ของเมืองนครศรีธรรมราชมาช้านาน


วัดธาตุธาราม หรือ วัดเขาธาตุ
มีเจดีย์ปะการังประดิษฐานอยู่บนเขาธาตุ ตามตำนานกล่าวว่าเจดีย์นี้ได้ทำการก่อสร้างหลังจากสร้างพระบรมธาตุเมือง นครศรีธรรมราชเสร็จเรียบร้อย โดยผู้มีจิตศรัทธาจากเมืองไชยาได้รวบรวมเงินทองและของ
มีค่าต่างๆ เพื่อไปบรรจุที่พระบรมธาตุเมืองนคร แต่ได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วผู้มีจิตศรัทธาดังกล่าวจึงได้ร่วมใจกัน สร้างเจดีย์ขึ้นบนเขาธาตุ ซึ่งสร้างด้วยหินปะการังทั้งองค์ องค์เจดีย์เป็นรูปโอคว่ำ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-6 เมตร
รอบๆ เจดีย์มีพระพุทธรูปแกะสลักหินทรายแดง ประดิษฐานบริเวณเจดีย์

วัดกระดังงา

เป็นวัดเก่าแก่ของอำเภอขนอม สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในอุโบสถมีภาพเขียนพุทธประวัติฝีมือวิจิตรบรรจง มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยาประดิษฐานอยู่ภายใน และมีโบราณวัตถุที่น่าสนใจ
มากมาย โดยเฉพาะเครื่องถ้วยชาม เป็นต้น วัดนี้ห่างจากถนนสายขนอม-ในเพลา
ประมาณ 200 เมตร


วัดเจดีย์หลวง

ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 บ้านท่าใน ตำบลควนทอง เป็นชุมชนโบราณ ซึ่งมีร่องรอยของเนินดิน สระน้ำ หินชิ้นส่วนของเทวสถาน แท่นเทวรูป แท่นศิวลึงค์ ที่กระจัดกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก


หาดสระบัว
ลักษณะ ชายหาดเป็นแนวยาวจากเหนือลงใต้ ประกอบด้วยหาดสวรรค์นิเวศน์ หาดจันทร์เพ็ญ หาดสันติสุข หาดปากน้ำท่าศาลา หาดสระบัว หาดบ้านหน้าทัพ หาดบ้านปากพะยิง และหาดปากน้ำปากนคร

พุทธภูมิ

โครงการพุทธภูมิเป็นการก่อสร้างพุทธสถาน ในพื้นที่ประมาณ 25 ไร่ ของสวนสมเด็จ
พระศรีนครินทร์ 84 โดยจำลองสิ่งก่อสร้างจากสังเวชนียสถานทั้ง 4 ตำบล ในประเทศอินเดีย และประเทศเนปาล มาประดิษฐานให้สมจริงมากที่สุดและสร้างพระพุทธรูปปางลีลาไว้เป็นประธานท่าม กลางสังเวชนียสถานดังกล่าว ซึ่งนอกจากจะเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงครองราชย์ครบ 60 ปีแล้ว โครงการนี้ยังเป็นการถวายเป็นพุทธบูชาตามเจตนารมย์ของพุทธศาสนิกชนชาว จังหวัดนครศรีธรรมราชอีกด้วย และพุทธภูมิแห่งนี้จะเป็นอุทยานแห่งการเรียนรู้เกี่ยวกับ
พุทธศาสนาที่ ยั่งยืนต่อไป
ติดต่อสอบถาม บริการนำชมได้ที่พิพิธภัณฑ์เมือง โทร 0 7535 8261 โทรสาร 0 7535 6164