WWW.TRAVEL2GUIDE.COM

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย มีอาณาเขตครอบคลุม 11 อำเภอ ของ 4 จังหวัด คือ อำเภอมวกเหล็ก อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี และอำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ได้รับสมญานามว่าเป็นอุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นป่าผืนใหญ่ตั้งอยู่ในเทือกเขาพนมดงรัก ในส่วนหนึ่งของดงพญาไฟหรือดงพญาเย็นในอดีต ประกอบด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนหลายลูก เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่สำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำมูล อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้างป่า กวางป่า เก้ง กระทิง เสือ ตลอดจนมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม มีเนื้อที่ 1,353,471.53 ไร่ หรือ 2,165.55 ตารางกิโลเมตร
โทรศัพท์ : 0 4429 7406, 0 4429 7426   โทรสาร : 0 4429 7426

น้ำตกสาริกา
น้ำตกสาริกา เป็นน้ำตกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา เดินทางจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 3049 เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3050 อีก 3 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางตลอดสาย น้ำตกสาริกาเป็นน้ำตกขนาดใหญ่สายน้ำไหลตกจากหน้าผาเป็นทอด ๆ ถึง 9 ชั้น ผาที่สูงที่สุดประมาณ 200 เมตร แต่ละชั้นมีอ่างรับน้ำและมีน้ำมากในฤดูฝน ส่วนฤดูแล้งน้ำแห้ง บริเวณด้านล่างของน้ำตกมีบริการห้องอาบน้ำ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ค่าเข้าชมน้ำตกผู้ใหญ่คนละ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ในบริเวณใกล้เคียงกันมี “ถ้ำสาริกา”  อาจารย์มั่น  ภูริฑตฺโต เคยมาบำเพ็ญศาสนธรรมที่นี่ระหว่าง พ.ศ. 2460-2463สภาพเป็นเนินเขา ภายในบริเวณประกอบด้วยกุฏิของสงฆ์ เรือนบูชาหลวงปู่มั่น และโบสถ์ ซึ่งอยู่สุดทางเดินเท้าขึ้นเขา

อุทยานพระพิฆเณศ
อุทยานพระพิฆเณศ เลขที่ 24/4 หมู่ที่ 11 ถ.นครนายก-น้ำตกสาริกา ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก
จากตัวเมืองนครนายกไปทางถนนสาริกา-นางรอง ถึงสี่แยกประชาเกษม เลี้ยวซ้าย ประมาณ 200 เมตร
อุทยานพระพิฆเณศตั้งอยู่ซ้ายมือ


น้ำตกกะอาง
ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีกะอาง จากตัวเมืองไปตามถนนสุวรรณศรถึงอำเภอบ้านนาเยื้องกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอ บ้านนา มีถนนแยกไปน้ำตกกะอางระยะทาง 11 กิโลเมตร เป็นน้ำตกเล็ก ๆ ลักษณะเป็นลานหินกว้างมีน้ำตกไหลผ่านตามช่องหิน ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว คือ ช่วงฤดูฝน (ประมาณเดือนกันยายนถึงตุลาคม) ฤดูแล้งน้ำจะแห้ง ในบริเวณยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ บริเวณใกล้เคียงมีสถานีเพาะชำกล้าไม้ของกรมป่าไม้ตั้งอยู่ด้วย และมีเนินเขาเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย 

น้ำตกวังม่วง
ตั้งอยู่ที่ตำบลนาหินลาด โดยเดินทางไปตามถนนสุวรรณศร (ทางหลวงหมายเลข 33) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3288 เป็นระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร เส้นทางสะดวกไปจนถึงบริเวณน้ำตก มีน้ำไหลผ่านแนวหินเป็นระยะ ๆ ลงมายังอ่างรับน้ำสุดท้าย บริเวณโดยรอบเป็นป่าร่มรื่น ต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปประมาณ 2 กิโลเมตร จึงจะสุดน้ำตก ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวจะเป็นช่วงฤดูฝน เพราะจะมีน้ำมาก 

น้ำตกเหวนรก
ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เดินทางจากตัวเมืองไปตามถนนสุวรรณศร ถึงสี่แยกเนินหอมหรือวงเวียนศาลสมเด็จพระนเรศวร เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 3077 ซึ่งเป็นทางขึ้นเขาใหญ่ไปจนถึงกิโลเมตรที่ 24 มีทางเดินเท้าไปน้ำตกเหวนรกอีก 1 กิโลเมตร น้ำตกเหวนรกเป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกสูงประมาณ 60 เมตร เมื่อน้ำไหลผ่านน้ำตกชั้นนี้จะพุ่งไหลสู่หน้าผาชั้นที่สองและชั้นที่สาม ในลักษณะการไหลตก 90 องศาไปสู่หุบเหวเบื้องล่าง ในช่วงฤดูฝนน้ำจะไหลแรงมากจนน่ากลัว

น้ำตกนางรอง
ตั้งอยู่ที่ตำบลหินตั้ง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร เดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 3049 น้ำตกนางรองอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดกลางที่ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ ไม่สูงนัก มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ ในช่วงฤดูฝนกระแสน้ำจากน้ำตกนางรองจะไหลเชี่ยวมากควรระมัดระวังในการลงเล่น น้ำ การจัดบริเวณภายในเป็นระเบียบสะอาดตา และมีบ้านพักบริการ การเข้าชมน้ำตกนางรองนักท่องเที่ยวจะต้องเสียค่าบำรุงสถานที่ ดังนี้ รถยนต์โดยสาร (รวมบุคคล) 150 บาท รถยนต์เล็ก (รวมบุคคล) 50 บาท รถตู้ (รวมบุคคล) 100 บาท รถจักรยานยนต์ 10 บาท บุคคลคนละ 5 บาท

น้ำตกวังตะไคร้
ตั้งอยู่ที่ตำบลหินตั้ง ใกล้กับน้ำตกนางรองอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 16 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 3049 วังตะไคร้เป็นของกรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิจ และหม่อมราชวงศ์หญิงพันธุ์ทิพย์บริพัตร เป็นอุทยานที่ได้รับการตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ใน เนื้อที่ 1,500 ไร่ มีถนนให้นำรถยนต์เข้าชมในบริเวณได้ เปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วไปทั้งประเภทเช้าไปเย็นกลับ และประเภทค้างแรม โดยคิดค่าผ่านประตูดังนี้ นักท่องเที่ยวเดินเท้า คนละ 10 บาท รถยนต์ รถกระบะ รถตู้ รถสองแถว คันละ 100 บาท (ผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน) มากกว่า 4 คน คิดเพิ่มตามจำนวนคนๆ ละ 10 บาท รถบัส คนละ 10 บาท

ล่องแก่งในลำน้ำนครนายก 
ช่วงที่เหมาะในการล่อง แก่งจะเริ่มประมารเดือนมิถุนายน-เดือนตุลาคม โดยเริ่มจากบริเวณเชิงสะพานวังตะไคร้แรือเชิงสะพานท่าด่าน เรื่อยมาตามลำน้ำนครนายก ผ่านเกาะแก่งต่างๆ ( แก่งที่น้ำเชี่ยวที่สุด คือ แก่งสามชั้น ) และยังมีจุดนำเรือขึ้นฝั่งและออกมายังถนนใหญ่ได้หลายจุด เช่น ที่บ้านดง แก่งสามชั้น วังกุตภา และวังยาง ระยะทางในการล่องแก่งแต่ละช่วงประมาณ 2-7 กิโลเมตร การล่องแก่งเป็นการท่องเที่ยวที่ผสมผสานไปกับกีฬาทางน้ำที่สนุกตื่นเต้นและ ท้าทาย เป็นการพักผ่อนและออกกำลังกายที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติโดยการพายเรือ แคนู

หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ คลอง 15
จากอาชีพเสริมสู่อาชีพหลัก ในอดีตชาวบ้านย่านคลอง 15 ตำบลคลองใหญ่และตำบลบางปลากด อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ประกอบอาชีพทำนาเป็นอาชีพหลัก และได้พัฒนาปรับเปลี่ยนท้องทุ่งให้เป็นแปลงปลูกไม้ดอกไม้ประดับ และขยับขยายพื้นที่ปลูกจนปัจจุบันพื้นที่สองฟากฝั่งถนนคลอง 15 หนาแน่นด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด และสร้างอาชีพใหม่ให้กับชาวบ้านจนกลายเป็นอาชีพหลักสร้างรายได้ให้กับ เกษตรกรคลอง 15 ชาวองครักษ์ 

การเดินทาง จากกรุงเทพ ฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 305 - รังสิต - องครักษ์ - คลอง 15 เลี้ยวซ้ายผ่านซุ้มประตูเข้าสู่หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ คลอง 15 นักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมทิวทัศน์ วิถีชีวิตชาวสวนไม้ดอก หรือจะจอดชมแล้วเช่าจักรยานน้ำปั่นชมทิวทัศน์สองฝั่งคลอง และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ชาวสวนก็มีความยินดีพร้อมให้คำแนะนำการปลูกไม้ดอกไม้ประดับแต่ละชนิดอย่าง ละเอียด

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- สำนักงาน ททท.ภาคกลางเขต 8 โทร.0 3731 2282, 0 3731 2284 www.tat8.com
- หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับคลอง 15 โทร.08 1734 2133
- สำนักงานเกษตรอำเภอองครักษ์ โทร. 0 3739 1295

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยพวนวัดฝั่งคลอง
ตั้งอยู่ตำบลปากพลี ริมทางหลวงหมายเลข 33 พิพิธภัณฑ์นี้เป็นที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของชาวไทยพวนในอดีตอายุราว 200 ปี เช่น ผ้าซิ่นไทยพวน โม่หิน ถังต้มกาแฟโบราณ อุปกรณ์ในการทำนา เครื่องมือในการทอผ้า เป็นต้น นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีกลุ่มทอผ้าพื้นเมือง และทำไข่เค็มสูตรใบเตยหอม

อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ
อยู่ที่ตำบลเขาพระ แยกซ้ายมือจากถนนที่ไปน้ำตกสาริกา-นางรอง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 1 ไปตามถนนเขาทุเรียนระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร (ทางไปบ้านวังรี) เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่มีทิวทัศน์สวยงามตามธรรมชาติมีน้ำตลอดปี มีถนนลาดยางรอบอ่าง เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน และใช้เป็นศูนย์กีฬาทางน้ำของจังหวัดนครนายก เนื่องจากมีศักยภาพในการเล่นเรือกรรเชียง เรือแคนูน้ำเรียบ เรือใบ และวินด์เซิฟในบางฤดู

เขื่อนขุนด่านปราการชล (เขื่อนคลองท่าด่าน)
เป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่ยาวที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานชื่อเขื่อนว่า เขื่อนขุนด่านปราการชล เพื่อเชิดชูวีรกรรมของขุนหาญพิทักษ์ไพรวัน หรือ ขุนด่าน วีรชนของนครนายกในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตัวเขื่อนมีความยาวรวม 2,720 เมตรความสูง 93 เมตร ความจุน้ำ 224 ล้านลูกบาศก์เมตร รับน้ำที่ไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ผ่านน้ำตกเหวนรกลงสู่อ่างเก็บน้ำ สามารถป้องกันน้ำท่วมและลดความเสียหายจากน้ำล้นตลิ่ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของนครนายก โดยสามารถชมทิวทัศน์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้จากบริเวณสันเขื่อน และชมทิวทัศน์เมืองนครนายกด้านหลังเขื่อน 
การเดินทางจากนครนายก
ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปน้ำตกนางรอง (ทางหลวง 3049) ผ่านอุทยานวังตะไคร้ แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่เขื่อน ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เขื่อนคลองท่าด่าน โทร.0 3738 4208-9, 0 3738 4210 เว็บไซต์ www.thadandam.com  นอกจากนี้บริเวณเขื่อนยังมี ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จัดแสดงแนวคิดและทฤษฎีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และท่าด่านโฮมสเตย์ โทร. 0 3738 5015 หรือชมรมผู้ประกอบการล่องแก่งและผจญภัยจังหวัดนครนายก โทร 08 1251 8317

โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (โรงเรียนนายร้อย จปร.)
สถานที่น่าสนใจภายใน โรงเรียนนายร้อย จปร. ได้แก่
     พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานอยู่หน้ากองบัญชาการ รร.นายร้อย จปร. ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นผู้พระราชทานกำเนิด โรงเรียนนายร้อย จปร. พระบรมรูปอยู่ในฉลองพระองค์เครื่องแบบจอมทัพไทยแห่งกองทัพบกเต็มยศประทับ เหนือพระราชอาสน์ ศาลาวงกลม หรือศาลาลม  จอมพลสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ ทรงดำริให้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของนักเรียนนายร้อย   ภายในศาลาวงกลมประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5นอกจากการเที่ยวชมสถานที่น่าสนใจดังกล่าว นักท่องเที่ยวสามารถขับรถหรือขี่จักรยานเที่ยวชมบริเวณได้ โดยบริเวณศูนย์บริการท่องเที่ยวมีจักรยานให้เช่า และยังมีสถานที่พัก ห้องประชุมสัมมนา ค่ายเยาวชน กิจกรรมกีฬาที่เปิดให้บุคคลภายนอกใช้บริการได้ เช่น สนามยิงปืน สนามกอล์ฟ สนุกเกอร์ คาราโอเกะ และสำหรับผู้ที่ต้องการจัดกิจกรรมกลุ่ม เช่น เดินป่า พักแรมที่เขาชะโงก กิจกรรมไต่หน้าผาจำลองและหน้าผาจริง ต้องติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน
สอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์บริการท่องเที่ยว
โทร. 0 3739 3185

ศาลหลักเมือง
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนครนายก เสาหลักเมืองเดิมเป็นเสาไม้ยาวประมาณ 1 เมตรเศษ ปลายเสาแกะสลักเป็นรูปดอกบัวตั้งอยู่บริเวณกำแพงเมืองเก่าต่อมาประมาณ พ.ศ. 2453 ทางราชการเห็นว่าศาลหลักเมืองเดิมชำรุดมากจึงได้ย้ายหลักเมืองไปประดิษฐาน ที่ตึกแดงในโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด คือ โรงเรียนศรีนครนายก ภายหลังได้ย้ายมาสร้างใหม่ริมแม่น้ำนครนายกภายในสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 โดยสร้างเป็นศาลาจตุรมุข เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองจนถึงทุกวันนี้

ศาลเจ้าพ่อหินตั้ง  
ตำบลหินตั้ง เดิมชื่อต.เขาใหญ่ อยู่ในอำเภอปากพลี มีนายอำเคอมาตรวจท้องที่ เห็นกองหิน (อยู่ในหมู่7) มีลักษณะแปลก คือ มีกองหินเป็นก้อนเล็กๆ วางเป็นฐานล่างและมีหินก้อนใหญ่มาก อยู่ด้านบน าในลักษณะที่หินก้อนใหญ่ไม่ถูกพื้นดิน ก็เลยเปลี่ยนชื่อจาก ต.เขาใหญ่ มาเป็นตำบลหินตั้ง และถือเอาสัญลักษณ์ประจำตำบลหินตั้ง ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ตำบลหินตั้ง เป็นตำบลในเขตการปกครองของอำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ซึ่งประกอบด้วย 9 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านคลองสีสุก, บ้านท่าด่าน, บ้านนางรอง, บ้านท่าชัย, บ้านหุบเมย, บ้านวังยายฉิม, บ้านบุ่งเข้, บ้านคลองสีเสียด, บ้านวังยาว

อ่างเก็บน้ำทรายทอง  
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนครนายก เสาหลักเมืองเดิมเป็นเสาไม้ยาวประมาณ 1 เมตรเศษ ปลายเสาแกะสลักเป็นรูปดอกบัวตั้งอยู่บริเวณกำแพงเมืองเก่าต่อมาประมาณ พ.ศ. 2453 ทางราชการเห็นว่าศาลหลักเมืองเดิมชำรุดมากจึงได้ย้ายหลักเมืองไปประดิษฐาน ที่ตึกแดงในโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด คือ โรงเรียนศรีนครนายก ภายหลังได้ย้ายมาสร้างใหม่ริมแม่น้ำนครนายกภายในสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 โดยสร้างเป็นศาลาจตุรมุข เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองจนถึงทุกวันนี้

วัดท่าช้าง  
วัดท่าช้างเดิมชื่อ วัดคเชนทร์ ฐานะเดิมเป็นสำนักสงฆ์ สร้างโดย่ชาวจีน่ต่อมาสมัยพระจุลจอมเกล้า ร.5 พระราชทานเงินสร้างพระอุโบสถมีลักษณะพิเศษคือ มี 5 เสา มีพระพุทธรูปปูนปั้นปรางมารวิชัยขนาดหน้าตัด 3-10 ม.สูง 3-5 ซม. ประตูหน้าต่างมีลายแกะสลักและลายปูนปั้นอย่างสวยงาม

เมืองโบราณ ดงละคร  
ตั้งอยู่ในเขตชั้นนอกของเมืองดงละคร ห่างจากประตูเมืองชั้นในด้านทิศเหนือประมาณ 250 ม. เป็นแนวกรอบศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมขนาดกว้าง 3.7 ม. ยาว 4 ม. ตรงกลางขุดพบสถูปศิลาแลง รูปทรงกระบอกขนาดใหญ่ ซ้อนกัน 2 ชั้น โบราณวัตถุชิ้นสำคัญซึ่งพบจากการขุดแต่งเมื่อ 2532 คือ (1) พระพุทธรูปและแม่พิมพ์ ทำด้วยดินเผา ศิลปะแบบทวารดี (2) เครื่องประดับเช่น แหวน กำไล ตุ้มหู ทำด้วยสำริด หัวแหวนทำด้วยหินสีต่างๆ ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหิน ประมาณ 2,000 เม็ด หินมีลายสลัก (อาจเป็นตราประทับ) รูป ปู ช้างเมืองโบราณดงละคร ตั้งอยู่ในเขตตำบลดงละคร อำเภอเมืองนครนายก ลักษณะเป็นเนินดินขนาดใหญ่ รูปลักษณะคล้ายกระทะคว่ำจุดสูงสุด (ยอดเนิน) อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 32 เมตร พื้นที่ตัวเมืองอยู่สูง จากระดับน้ำทะเล 9-10 เมตร มีเมืองชั้นนอก-เมืองชั้นใน เป็นเมืองสมัยวัฒนธรรมทราวดี เริ่มมีผู้คนมาตั้งถิ่นฐานยุคแรกประมาณ พุทธศตวรรษที่ 12-14 ต่อมาพุทธศตวรรษที่ 15-16นิทรรศการโบราณวัตถุ ตั้งอยู่ใกล้กับโบราณสถานหมายเลขที่ 1 จัดแสดงนิทรรศการข้อมูลเกี่ยวเมืองโบราณดงละครและโบราณวัตถุที่ขุดได้ใน บริเวณนี้ เช่น เศียรพระพุทธรูปกาไหล่ทองสมัยทวารวดี แผ่นทอง เม็ดข้าวสารดำ เตาหลอมโลหะขนาดเล็ก ชิ้นส่วนเครื่องปั้นดินเผาสมัยทวารวดี เศษกระเบื้องของจีนสมัยราชวงศ์ถัง คันฉ่องสำริด อายุราวพุทธศตวรรษท่ 18 เป็นต้น

พระแก้วมรกตองค์จำลอง (วัดคีรีวัน)  
วัดคีรีวัน สร้างมานานกว่า 100 ปี ประวัติเล่าสืบกันมาบอกว่า วัดนี้แต่เดิมอยู่กลางทุ่งต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่เชิงเขากระเหรี่ยง เดิมชื่อ วัดสว่างอารมณ์ เมื่อย้ายที่ใหม่จึงตั้งชื่อ คีรีวัน มีเจ้าอาวาสชื่อ พระครูคีรีวนานุกูลโอภาโส หรือ หลวงพ่อรี วัดนี้มีพระวิหารที่ตั้งอยู่บนยอดเขาของวัดใช้ประดิษฐ์พระแก้วมรกตจำลอง ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าเป็นพระแก้วองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่นับถือของประชาชนโดยทั่วไปประดิษฐานอยู่ในพระวิหารบนยอด เขาวัดคีรีวัน ตำบลหินตั้ง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 9 กิโลเมตร  องค์พระแก้วจำลองมีเนื้อเป็นเรซิ่น ขนาดหน้าตักกว้าง 49 นิ้ว สูง 32.9  นิ้ว หนัก 1 ตัน และมีเครื่องทรงครบทั้ง 3 ฤดู ประดับตกแต่งด้วยเพชรแท้ 7 กะรัต พลอยแท้  2,000 กว่าเม็ด และทับทิม
การเดินทาง  ตามเส้นทางนครนายก-ท่าด่าน ห่างจากตัวจังหวัด 9 กิโลเมตร

สวนศรียา  
ตั้ง อยู่ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง เป็นสวนที่เจ้าของสวนนำต้นไม้ธรรมดามาทำให้เป็นพันธุ์ไม้ใหม่ ๆ แปลก ๆ เช่น ต้นไม้แฟนซี  ต้นไม้เต้นระบำ ต้นกระเทียม-ต้นแมงดา ผลไม้ขวด เป็นต้น สอบถามรายละเอียด โทร. 0 3738 4093

พระบรมรูปรัชกาลที่ 8 (วัดนางรอง)       
     
ประดิษฐาน ณ วัดนางรอง ตำบลสาริกา เป็นพระบรมรูปหล่อเท่าองค์จริงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 เททอง เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2514 โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ  สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฐายี) เป็นองค์ประธาน โดยมีหลวงพ่อเณรโกศล มีวุฒิสม (พระครูพรหมสาร) เป็นผู้ดำเนินการโดยขอพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันวัดนางรองได้สร้างมณฑปทรงยุโรปหลังคา 8 เหลี่ยม กว้าง 8 เมตร ยาว 8 เมตร ประดิษฐานพระบรมรูปเท่าพระองค์จริงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันท มหิดล  รัชกาลที่ 8 ซึ่งเป็น 1 ใน 4 องค์ ของประเทศไทย และยังมีจุดชมทิวทัศน์บนวิหารระฆังที่สูงจากพื้นดินประมาณ 18 เมตร แบ่งเป็น 5 ชั้น เป็นจุดชมวิวรอบ ๆ และสามารถมองเห็นเขื่อนขุนด่านปราการชลได้อย่างชัดเจน

วัดใหญ่ทักขิณาราม  
ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านใหญ่ ริมแม่น้ำนครนายก จากตัวเมืองเดินทางตามทางหลวงหมายเลข 3049  แล้วเลี้ยวขวาเข้าบ้านใหญ่ วัดใหญ่ทักขิณารามเป็นวัดเก่าแก่กล่าวกันว่าชาวเวียงจันทน์ได้อพยพมาเมื่อ ครั้งเกิดสงครามลาวกับฝรั่งเศส ชาวเวียงจันทน์แพ้สงครามจึงอพยพลงมาทางใต้ และมีกลุ่มหนึ่งมาตั้งหลักแหล่งอยู่ในเขตอำเภอเมืองนครนายก เรียกว่า “บ้านใหญ่ลาว” และได้สร้างวัดขึ้นในปี พ.ศ. 2323 เรียกว่า “วัดใหญ่ลาว”  ในปี 2484 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดใหญ่ทักขิณาราม สิ่งที่สำคัญในวัดคือ พระอุโบสถซึ่งมีขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 10.15 เมตร สูง 10 เมตร มีกำแพงแก้วล้อมรอบ สร้างโดยช่างชาวเวียงจันทน์  ลักษณะพระอุโบสถเป็นเครื่องไม้มุงกระเบื้อง ก่ออิฐถือปูน บานประตูเป็นไม้แกะสลักกรอบด้านขวามือเป็นรูปยักษ์ถือกระบองชูขึ้น และเท้าบั้นเอว หน้าบันเป็นไม้แกะสลักรูปเทพพนม  กำแพงแก้วมีซุ้มประตูโค้งเลียนแบบศิลปะตะวันออก มีทหารสวมหมวกแต่งกายแบบยุโรปถือกระบองเป็นทวารบาลด้านละ 2 คน ปกติโบสถ์ไม่เปิดถ้าประสงค์จะเข้าชมติดต่อขออนุญาตได้ที่เจ้าอาวาส

ศาลเจ้าพ่อองครักษ์
ตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำนครนายก ในเขตตำบลสันทรายมูล มีเรื่องเล่าว่าเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิง ถวัลย์ราชสมบัติ ได้เสด็จประพาสจังหวัดปราจีนบุรีโดยเสด็จผ่านมาตามลำแม่น้ำนครนายก และได้มาประทับแรมบริเวณที่ตั้งศาลเจ้าพ่อองครักษ์ในปัจจุบัน ในระหว่างประทับแรมอยู่นั้นนายทหารราชองครักษ์ป่วยและเสียชีวิตลง จึงทรงมีพระราชประสงค์ให้สร้างศาลขึ้นเป็นอนุสรณ์ ศาลแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า “ศาลเจ้าพ่อองครักษ์” และใช้เป็นชื่อของอำเภอองครักษ์ในเวลาต่อมา บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อองครักษ์นี้เป็นวังน้ำวน น้ำไหลเชี่ยวมาก ถือว่าน้ำตรงวังน้ำวนเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จึงนำไปทำพิธีสรงน้ำมูรธาภิเษก เมื่อคราวประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิ พลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน 

วัดพระเมรุ 
ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม บริเวณสวนอนันทอุทยาน ตำบลห้วยจระเข้  ห่างจากพระปฐมเจดีย์ไปทางทิศใต้ไม่ไกลนัก วัดนี้เป็นวัดร้างปัจจุบันสภาพที่เห็นเหลือแต่ซากเนินใหญ่ปรากฏอยู่เนิน หนึ่ง  วัตถุที่ค้นพบบริเวณนี้มีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ พระกร พระเพลา พระหัตถ์ของพระพุทธรูปศิลา เทพยักษ์ เทพสิงห์ดอกบัว และลวดลายประดับองค์พระเจดีย์ที่หักพังลง บางส่วนนำไปไว้ในพิพิธภัณฑ์องค์พระปฐมเจดีย์และบางส่วนไว้ที่พิพิธภัณฑสถาน แห่งชาติ เจ้าสามพระยาและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในสมัยรัชกาลที่ 6 สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้นำพระบาทขนาดโต 2 คู่จากวัดพระเมรุมาไว้ตรงชั้นนอกพระระเบียงองค์พระปฐมเจดีย์  และกรมศิลปากรได้ร่วมมือกับนักโบราณคดีฝรั่งเศสทำการขุดค้นเมื่อพ.ศ.2482  ค้นพบวัตถุซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นพระเจดีย์องค์มหึมาก่อเป็นชั้นๆ ย่อมุมขึ้นไปสูงมากเพราะซากฐานที่หักพังเหลืออยู่ในขณะที่ทำการขุดสูงถึง 12 เมตร มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปศิลานั่งห้อยพระบาทประจำ 4 ทิศและได้อัญเชิญพระพุทธรูปศิลาองค์นี้มาประดิษฐานไว้ที่วัดพระปฐมเจดีย์ สันนิษฐานว่า สร้างตั้งแต่สมัยทวาราวดีมีอายุเท่ากับพระปฐมเจดีย์เดิม ซึ่งไม่น้อยกว่า 1,000 ปี ขึ้นไป 

อ่างเก็บน้ำวังบอน 
ตั้งอยู่บ้านวังบอน หมู่ที่ 7 ตำบลนาหินลาด จากตัวเมืองนครนายกใช้ทางหลวงหมายเลข 33 เลี้ยวซ้ายก่อนถึงอำเภอปากพลี (เส้นทางไปน้ำตกวังม่วง) ระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำเป็นพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งยังคงความ อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว เช่น เดินป่า ดูนก โรยตัวจากหน้าผาชมความงามของน้ำตกธารรัตนา ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พายเรือแคนูชมความงามของน้ำตกวังบอน เป็นต้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมเรารักธรรมชาติอ่างเก็บน้ำวังบอน โทร. 0 7129 4838 

 
วัดป่าศรีถาวรนิมิต
ตั้งอยู่ที่บ้านบุ่งเข้ ตำบลหนองแสง จากตัวเมืองแยกซ้ายมือจากถนนสุวรรณศรไปตามทางหลวงสายนครนายก-ท่าด่าน (ถนนสาย 3239) ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร มีทางแยกขวามือเข้าไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร บริเวณวัดมีเนื้อที่ประมาณ 350 ไร่ อยู่ติดกับเทือกเขาใหญ่ที่รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ บริเวณโดยรอบมีไม้ยืนต้นร่มรื่นและเงียบสงบ มีกุฏิปฏิบัติธรรมนับร้อยหลัง สำหรับพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา และประชาชนผู้สนใจปฏิบัติธรรมทั่วไป ในบริเวณนี้ยังมีโครงการเมืองสหกรณ์อันเนื่องมาจากพระราชดาริ มีการทำสวนผักปลอดสารพิษและนาข้าวโดยใช้ระบบเกษตรธรรมชาติ วัดนี้อยู่ในความอุปถัมภ์ของมูลนิธิถาวรจิตตถาวโรวงศ์มาลัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ พระครูสรพาจน์พิไล (เจ้าอาวาส) โทร. 0 3730 8366, 0 1866 1304  

พุทธสถานจีเต็กลิ้ม  

ตั้งอยู่ที่ บ้านบางหอย ต.ศรีจุฬา เป็นที่ประดิษฐานของ เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ย (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) ปางมหาเศรษฐีชัมภลหรือที่เรียกว่าปางมหาราช หล่อด้วยโลหะขนาดฐานกว้าง 2 เมตร ลักษณะสมบูรณ์ สมส่วน น่าเลื่อมใส ซึ่งชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนให้ความเคารพนับถือว่าเป็นเทพเจ้าทีให้คุณ ทางด้านโชคลาภ ทรัพย์สมบัติ และการค้าขาย โดยในการจัดงานฉลองวันตรุษจีน 222 ปีที่เยาวราช เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 ที่ผ่านมานั้น ได้มีการอัญเชิญรูปหล่อเทพเจ้าแห่งโชคลาภไฉ่ซิ่งเอี้ย ไปให้ประชาชนสักการะบูชาทำให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีรูปหล่อพระโพธิสัตว์และเทพเจ้าต่างๆ อาทิ พระโพธิสัตว์กวนอิม เทพเจ้ากวนอู เป็นต้น เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์

การเดินทาง จากตัวเมืองใช้ถนนสายสายนครนายก-บ้านสร้าง ประมาณ 28 กิโลเมตร 


กลุ่มส้มโอ ไอ พี เอ็ม  
เกษตรกรบ้านแก่งสามชั้น ตำบลสาริกา รวมกลุ่มกันดูแลรักษาส้มโอด้วยการควบคุมศัตรูพืชแบบผสมผสาน (IPM) ภายในพื้นที่กว่า 100 ไร่ โดยใช้ปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยคอก และสารชีวภาพจากสมุนไพรแทนการใช้ปุ๋ย และยาฆ่าแมลง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณสุเทพ  ลุนไธสงค์ ประธานกลุ่ม โทร. 0 9931 8255 

หลวงพ่อเศียรนคร (วัดบุญนาค)
ประดิษฐานอยู่ ณ วัดบุญนาครักขิตาราม (วัดต่ำ) ตำบลนครนายก เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดนครนายกให้ความเคารพศรัทธา สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยพระร่วง ขุดพบเมื่อ พ.ศ. 2495 บริเวณโรงกลั่นสุราจังหวัดนครนายก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้วัดนางหงษ์ ตำบลท่าช้าง โดยขุดพบแต่เศียรไม่มีองค์ และได้นำไปไว้ที่โรงเรียนนายกพิทยา (ปัจจุบันยุบไปแล้ว) ต่อมานำไปประดิษฐานที่วัดบุญนาครักขิตาราม ในปี พ.ศ. 2511 มีผู้ศรัทธาสร้างองค์พระและโบสถ์ถวาย และถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “หลวงพ่อเศียรนคร” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 สวนละอองฟ้า
ตั้งอยู่บ้านหุบลึก ตำบลเขาพระ เป็นแหล่งรวบรวมทุเรียนโบราณพันธุ์ดั้งเดิมกว่า 50 พันธุ์ ที่คุณลุงชม โสวรรณตระกูล  นำมาจากสวนแถบฝั่งธนบุรีมาปลูกไว้เมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว และได้คิดค้นเพิ่มขึ้นจนมีมากกว่า 100 สายพันธุ์  ปัจจุบันสวนแห่งนี้จึงเป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ทุเรียนโบราณ ซึ่งนอกจากจะได้เข้าเยี่ยมชม แลกเปลี่ยนความรู้ ถ้ามาเดือนเมษายน-มิถุนายน จะได้ชิมทุเรียนโบราณรสชาติหวานมันสด ๆ จากต้นด้วย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3821 6035-6, 0 9246 4271

ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ

ตั้งอยู่ด้านหลังเขื่อนขุนด่าน ปราการชล  บ้านท่าด่าน  ตำบลหินตั้ง  เป็นศูนย์เรียนรู้และศึกษาทฤษฎีเกษตรพอเพียงตามแนวพระราชดำริ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2545 ในพื้นที่  14  ไร่ โดยออกแบบได้อย่างเหมาะสมให้ผู้เข้าชมได้รับทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน

จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดนครนายกบรรจุด้วยความรู้ควบคู่ ความสุขตาสุขใจ  ความเพลิดเพลินที่ได้มาเยือนที่สื่อความหมายผ่านนิทรรศการทั้งภายในและภาย นอกอาคาร  พร้อม ๆกับการฝึกอบรมให้กับผู้ที่สนใจที่จะนำแนวคิดและทฤษฎีการพัฒนาของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปประยุกต์ใช้ในการทำงานในชีวิตประจำวัน  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผู้ประสานงานศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ นครนายก   คุณปัญญา ปุลิเวคินทร์     โทร.08-1964-5915  คุณวริสร  รักษ์พันธุ์   โทร.08-1970-3779


พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นบ้านปากพลี  
ตั้งอยู่ภายในวัดโพธิ์ปากพลี หมู่ที่ 2 ต.ปากพลี เป็นที่รวบรวมโบราณวัตถุจำนวนมากที่ขุดค้นพบในบริเวณตำบลปากพลี มีอายุระหว่า 2,700-3,000 ปี เช่น เครื่องปั้นดินเผา ภาชนะสำริด กำไลสำริด ลูกปัดแก้ว ฯลฯ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ วัดโพธิ์ปากพลี โทร. 0 3739 9075

อนุสรณ์สถานกองพลทหารญี่ปุ่นที่ 37 (วัดพราหมณี) 
ตั้งอยู่ที่วัดพราหมณี ตำบลสาริกา ประมาณกิโลเมตรที่ 5 ทางไปน้ำตกสาริกา-นางรอง  สมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา พ.ศ. 2482 - 2488   กองพลทหารญี่ปุ่นที่ 37 เคยมาตั้งทัพอยู่ที่วัดนี้  สมาคมทหารสหายสงครามกองพลญี่ปุ่นที่  37  จึงสร้างอนุสรณ์สถานขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2532 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงดวงวิญญาณของบรรดาทหารสังกัดกองพลญี่ปุ่นที่ 37 จำนวน 7,929 นาย ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างสงคราม โดยนำอัฐิที่ฝังอยู่ในบริเวณวัดมาบรรจุในแท่นที่จัดสร้างขึ้น 
นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดพราหมณียังมีสวนสัตว์จำลอง โดยมีรูปปูนปั้นสัตว์ป่ามากมาย เช่น ช้าง โค กระบือ กระทิง เก้ง กวาง และพระพุทธรูปเก่าแก่ทรงเครื่องดอกพิกุล พระโอษฐ์แดง  เล่ากันว่าชาวลาวอพยพได้อัญเชิญมาเมื่อสมัยเวียงจันทน์แตก เรียกกันว่า “พระพุทธรูปปากแดง” เนื่องจากริมฝีปากของพระพุทธรูปมีสีแดงสดเป็นที่เคารพของชาวไทยและชาวต่าง ชาติ สอบถามข้อมูล โทร. 0 3738 6166-7